เขียนวันที่ วันอังคาร ที่ 12 เมษายน 2565 เวลา 15:24 น.
5 ปี มีความผันผวนสูง ผลตอบแทนเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังให้อยู่ที่ 2. 8-2. 9% และได้ปันผลออกมาด้วยปีละ 2 ครั้ง ข้อดี มีสภาพคล่องสูงสามารถแปลงเป็นเงินสดได้ง่าย เพราะสามารถซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ เหมาะกับคนที่เข้าใจตลาดตราสารหนี้พอสมควร เพราะระยะเวลา 7. 5 ปี มีความผันผวนกว้าง ทำให้คนที่คาดการณ์ตลาดได้ หรือเข้าใจอัตราผลตอบแทน (Yield Curve) สามารถเข้าไปซื้อขายเพื่อเก็งกำไรได้ เหมาะกับคนที่ถือลงทุนระยะยาวได้และไม่ต้องการมีความเสี่ยงกองทุนอสังหาฯ-รีทพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.
สิ้นสุดการซื้อหุ้นเพื่อทำ Tender Offer ขณะที่ SCB (ธนาคาร) เตรียมเปลี่ยนชื่อเป็น SCBB วันนี้ถือว่าเป็นวันสุดท้ายของการซื้อหุ้น SCB เพื่อนำไปแลกเป็นหุ้น SCBX อย่างเป็นทางการ 18 เม. ย. 65 วันสุดท้ายของการตอบรับคำเสนอซื้อ นักลงทุนที่ใช้โบรกเกอร์แห่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ SCBS, BLS, KKPS, ASP ใ
EP. 345 การเช็คดูดอกเบี้ยเงินฝากในพอร์ตหุ้น [ นักลงทุนมือใหม่] - YouTube
แม้ว่าการประชุมของ กนง. (คณะกรรมการนโยบายการเงิน) ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1. 50 ต่อปีไม่เปลี่ยน แต่เรื่องกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกสั้นๆว่า QT (Quantitative Tightening) อาจไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป และอาจส่งผลทำให้ดอกเบี้ยไทยต้องปรับขึ้นตามไปด้วย แล้วหุ้นกลุ่มไหนจะโดนจัดหนักจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และ หุ้นกลุ่มไหนที่ได้ประโยชน์? หุ้นที่อาจโดนหนัก: 1. หุ้นบริษัทที่มีหนี้สินสูงๆ หุ้นบริษัทที่มีหนี้สินสูงๆ (ยกเว้นเจ้าหนี้การค้า เพราะหนี้ก้อนนี้ไม่มีดอกเบี้ย) โดยเฉพาะบริษัทที่มีอัตราส่วน Interest-bearing D/E เกินกว่า 1.
16 ต. ค. 2019 เวลา 12:27 • ธุรกิจ ส่อง TOP 10 หุ้นกลุ่มประกันภัย กับปัจจัยดอกเบี้ยที่กำลังลดลง "หุ้นกลุ่มประกัน" ถือเป็นหุ้นกลุ่มที่เคยมีความโดดเด่นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะหากมองย้อนไปแล้วหุ้นกลุ่มนี้จะมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่า GDP อยู่เสมอ แต่!
9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 ในขณะที่ S&P500 มี Forward P/E ที่ 18 เท่า คิดเป็น Earnings Yield ประมาณ 5% ทำให้ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของหุ้นกับพันธบัตร (Earnings Yield Gap) อยู่ที่ 2. 3% หมายความว่า หุ้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร 2.
25% ในขณะที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2022 จำนวน 2 ครั้งในปี 2023 และอีกจำนวน 2 ครั้งในปี 2024 อย่างไรก็ตาม Fed จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าการทำ Tapering จะสิ้นสุด โดย นาย Powell ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าระหว่างการสิ้นสุด Tapering และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะไม่ห่างกันมากนัก มุมมอง Fed ต่อเศรษฐกิจสหรัฐ? เงินเฟ้อ ความไม่สมดุลกันระหว่าง Supply และ Demand ที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาด และการกลับมาเปิดประเทศ ยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อ และมองว่าการเร่งตัวของเงินเฟ้อจะมากขึ้นและยาวนานขึ้นกว่าที่คาด Fed ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2021-2023 สู่ระดับ 5. 3%, 2. 6% และ 2. 3% ตามลำดับ และคงคาดการณ์ตัวเลขในปี 2024 ที่ระดับ 2. 1% และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวที่ระดับ 2. 0% การจ้างงาน คณะกรรมการ FOMC ทุกท่านมองว่าการจ้างงานอย่างเต็มที่จะเกิดขึ้นได้ในปี 2022 ทั้งนี้ นาย Powell กล่าวว่าการจ้างงานในระดับสูงอาจใช้ระยะเวลานานกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม Fed จะทำทุกวิถีทางเพื่อเป้าหมายของการจ้างงานและราคาที่คงที่ Fed ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการว่างงานในปี 2021-2022 สู่ระดับ 4.
ปรับพอร์ตเพื่อเตรียมรับวัฎจักรเศรษฐกิจ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง นักลงทุนควรเริ่มการปรับพอร์ตเพื่อเตรียมตัวรับวัฎจักรเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เช่น ภาวะเงินเฟ้อสูงระยะยาวร่วมกับเศรษฐกิจที่โตระดับต่ำ (Stagflation) ในกรณีนี้นักลงทุนอาจเลือกลดการถือครองหุ้นที่โตช้าไปตามวัฎจักรเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่ม Laggard & Cyclical เช่น กลุ่มการเงิน หรือหุ้นยุโรป ลดการถือครองพันธบัตรและหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนต่ำและราคาลดลงหากดอกเบี้ยปรับขึ้น และเพิ่มการลงทุนที่ได้ประโชน์จากเงินเฟ้อ เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือหุ้นเติบโตสูง เป็นต้น 5.