มาแล้วจ้าาา … ก่อนอื่นแอดต้องบอกก่อนเลยว่า การทำข้อสอบ toeic!!! การบริหารเวลาสำคัญมากที่สุดในการทำข้อสอบ Reading Comprehension ❌ จำกัดเวลา 75 นาที ❌ ในการทำข้อสอบ 100 ข้อ ดังนั้นสิ่งที่เราควรจะต้องทำ คือ … 1. ⭐️ Part 5: Incomplete Sentences 40 ข้อ เวลาในการทำข้อสอบ ไม่ควรเกิน 30 นาที ⭐️ Part 6: Text Completion 12 ข้อ เวลาในการทำข้อสอบ ไม่ควรเกิน 5 นาที และ ⭐️ Part 7: Reading Comprehension 48 ข้อ เวลาในการทำข้อสอบ ไม่ควรเกิน 40 นาที รวม 75 นาที 2. 😉 ถนัดส่วนไหนให้เลือกทำส่วนนั้นก่อน ไม่จำเป็นต้องเริ่มที่ข้อ 1 เสมอไป บางคนถนัดการทำข้อสอบส่วน Part 7: Reading ก่อน เนื่องจากการอ่านบทความนั้น คำตอบของคำถามทุกอย่างสามารถหาได้จากการอ่านบทความ ไม่ต้องคิดวิเคราะห์มากมาย 3. 😂 หากจะเว้นข้อที่ทำไม่ได้ ให้ทำสัญลักษณ์หรือเครื่องหมาย ✔️ ให้เห็นเด่นชัด ไว้ที่เลขข้อ และดูเลขข้อสอบทุกครั้ง 4. ขีดเส้นใต้โจทย์ที่มีความสำคัญเป็น Key word ของข้อนั้นๆ เมื่อกลับไปอ่านบทความจะได้เห็น Key word ตัวที่เราขีดเส้นใต้ชัดเจน ตอบคำถามได้รวดเร็วขึ้น 5. 😎 กรรมการคุมสอบจะเตือนก่อนหมดเวลา 30 นาที และ 15 นาที 6. 🕑 เมื่อกรรมการคุมสอบเตือนเหลือเวลาอีก 5 นาที ถึงเวลาที่ท่านต้องเดาข้อสอบให้หมดและตรวจทานความเรียบร้อยของกระดาษคำตอบ 7.
เตรียมบัตรประชาชนตัวจริง หรือพาสปอร์ตตัวจริง พร้อมเงินค่าสมัคร 1, 000 บาทไปในวันสอบ 3. ข้อสอบมีทั้งหมด 200 ข้อ เป็น Listening 100, Reading 100 คะแนนรวม 990 คะแนน 4. สำหรับการรับผลสอบ ผู้ที่มารับเอง - เอาใบสอบ + บัตรประชาชนตัวจริง มาในวันรับผล ให้ผู้อื่นมารับ - เอาใบสอบ + บัตรประชาชนตัวจริงของเรา + บัตรประชาชนตัวจริงของผู้มารับแทน ส่ง EMS กลับบ้าน - รับซองจดหมายหลังสอบเขียนชื่อภาษาอังฤษ ที่อยู่ภาษาไทย จ่ายเงิน 50 บาท ใครจะไปสอบก็สู้ๆขอให้โชคดีในการสอบค่ะ!!!! ขอให้ได้คะแนนงามๆกันทุกคนเน้อ! !
TOEIC หรือ Test of English for International Communication แบ่งการสอบออกเป็น 2 พาร์ท คือ Listening 100 ข้อ กับ Reading 100 ข้อ รวมทั้งหมด 200 ข้อ คะแนนเต็ม 990 คะแนน::: การจองเวลาสอบ::: สำหรับคนที่สนใจจะไปสอบ TOEIC ควรจะโทรไปนัดก่อนอย่างน้อย 1 วัน โดยโทรไปจองวันสอบที่เบอร์ 0-2260-7061 หรือ 0-2260-7189 โดยทาง TOEIC มีการเปิดให้สอบในวันจันทร์ถึงเสาร์ ( วันอาทิตย์ปิด) มีสอบ 2 รอบคือ 9. 00-12. 00 กับ 13. 00-16. 00 พอโทรไปก็แจ้ง ชื่อกับนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษแล้วก็หมายเลขบัตรประชาชน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย -------------------------------------------------------------------------------------------------::: สิ่งที่ต้องเตรียมไปในวันสอบ:: 1. เตรียมใจ /me โดนถีบ ไม่ใช่แล้ว 2. เตรียมเงินค่าสอบ 1, 000 บาท ( ถ้าจะให้ส่งผลสอบกลับบ้านจ่ายเพิ่มอีก 50 บาทฮ่ะ) 3. บัตรประชาชน หรือพาสปอร์ตตัวจริง ( ไม่เอาสำเนานะ) 4. เสื้อกันหนาว ( มันหนาวจริงๆนะจอร์จ หนาวโคตรๆๆๆๆๆๆ) 5. นาฬิกา ในห้องก็มีแหละ แต่เอาไปด้วยอุ่นใจดีค่ะ ( ส่วนของเรา นาฬิกาตายก๊าก =[]= ตายหมด 3 เรือนเลยต้องไปยืมยายมาใช้) 6. 2B สำหรับคนที่ใช้เปลืองแบบเรา เพราะเขามีให้ 2 แท่ง 7.
อยากจะสมัครเข้ารับราชการ ติดที่ด้านภาษาอังกฤษใช่มั้ย? อันที่จริงแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัททั่วไป ก. พ. เรียกคะแนน TOEIC น้อยมากๆเลย แค่ 495 เท่านั้น บริษัททั่วไปจะเรียกขั้นต่ำที่ 550 ดังนั้นเมื่อก. เขาต้องการแค่นี้ TOEIC ก็จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับนักเรียนเลย ครูจะมาแนะนำแนวทางการเตรียมสอบ TOEIC เพื่อที่จะได้คะแนนผ่านเกณฑ์ในการเข้า สอบ ก. ในครั้งต่อไป คว้า TOEIC 495 เพื่อ สอบ ก. ง่ายกว่าที่คิด! คะแนน TOEIC 495 เป็นการรวมคะแนนของทักษะการฟัง และการอ่าน เขาไม่แคร์ว่านักเรียนจะได้อ่าน 100 ฟัง 395 ขอแค่คะแนน TOEIC รวมได้ 495 ก็ สอบ ก. ผ่านแล้ว!! ลองคิดดูนะ ข้อสอบด้านการอ่าน TOEIC Reading นั้นมีทั้งหมด 100 ข้อ นักเรียนแค่ทำถูกแค่ 38 ข้อ –นักเรียนก็จะสามารถคว้าคะแนน TOEIC Reading 100 คะแนนแบบง่ายๆเลย!! ในเมื่อนักเรียนเข้าใจความเป็นไปได้ในการทำคะแนน TOEIC 495 ในครั้งนี้ครูจะแนะนำแนวทางการติว TOEIC ใน 2 สถานการณ์ (นับจากวันทีนักเรียนได้อ่านบทความนี้ จนถึงวันที่ต้องยื่นคะแนน สอบ ก. ) นั่นก็คือ นักเรียนมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าเต็มที่ 1-2 เดือน นักเรียนมีเวลาน้อย ต้องใช้คะแนนภายในเวลาไม่เกิน 30 วัน วิธีเตรียมสอบ TOEIC ภายใน 1-2 เดือน การมีเวลาเตรียมตัวล่วงหน้าขนาดนี้ จะทำให้นักเรียนสามารถปรับพื้นฐานได้เต็มที่ ทำให้มีทักษะการฟัง และความรู้แกรมม่าติดตัวที่จะสามารถใช้ได้ทั้งในและนอกห้องสอบ TOEIC!!
ต้องหัดวางกลยุทธการได้มาซึ่งคะแนนของเราว่าจะมาจาก Part ไหนบ้าง แต่ละ Part ประมาณกี่คะแนน อย่าลืมว่าข้อสอบ 200 ข้อ คะแนนเต็มคือ 990 คะแนน แบ่งเป็น Listening 495 คะแนน และ Reading 495 คะแนน สรุปคือโดยเฉลี่ยคร่าวๆ ข้อละ 4. 95 คะแนน (ที่จริงมีตารางเทียบจำนวนข้อสอบและคะแนน TOEIC ที่ได้ ลอง google ดูนะคะ) เราควรรู้ตัวเราว่าทำ Part ไหน ได้ดีกว่ากัน หัดคำนวณคะแนนของตนเองด้วยตอนฝึก และในส่วนของ Reading ให้เลือกทำ Part ที่เราถนัดก่อน ซึ่งเราเลือกได้และบริหารจัดการเวลาได้ ไม่เหมือน Listening ที่ต้องทำเป็นลำดับตามเทป listening ที่เค้าเปิดให้ฟัง อย่าลืมค่ะการวางกลยุทธ์เป็นส่วนที่สำคัญมากส่วนหนึ่งในการสอบ เอาละค่ะ นั่นคือทั้งหมดที่ควรรู้ สำหรับการเตรียมตัวทบทวน และฝึกฝนการสอบ TOEIC ด้วยตัวเองค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เตรียมตัวสอบทุกคน เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ นะคะ Have fun learning English! ผู้เขียนขอรับรองว่าเนื้อหาในบทความนี้ทั้งหมดไม่ได้ทำการคัดลองมาจากแหล่งข้อมูลอื่นใด หากแต่เป็นการกลั่นกรองจากประสบการณ์การสอนจริง การสอบจริง และการใช้ภาษาอังกฤษในต่างแดนมาเป็นเวลานานของผู้เขียนเอง กำลังนิยมในบล็อกดิต 4 ชั่วโมงที่แล้ว • ธุรกิจ 8 1/2 EP1130 - สร้างวัคซีนใน 9 เดือนแบบ Pfizer ทำยังไง?
(คุณสมัครตำแหน่งอะไร? ตำแหน่งพนักงานล้างจานอะไรก็ว่าไป) Where – ที่ไหน (ระบุสถานที่มาเลย) เช่น Where do you want to go today? (วันนี้คุณจะไปไหน? บอกชื่อสถานที่ไป ง่ายมะ) When – เมื่อไหร่ (ระบุเวลามา พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ชาติหน้า) แต่อย่าสับสนเรื่องเวลาก่อนหลัง เช่น When will you come here? (คุณจะมาที่นี่เมื่อไหร่? ) a. Yesterday morning. b. Last Monday. c. I don't know.