NOT หมายถึง การนำเงื่อนไขมาดำเนินการกัน แล้วได้ผลของการดำเนินการ ดังแสดงในตาราง >>> นิพจน์ (Expression) หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ มาสัมพันธ์กันโดยใช้ตัวดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นตัวเชื่อม 3. 6. 1 นิพจน์ แบ่งออกได้เป็น 1. นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ (Arithmetic Expression) นิพจน์ทางคณิตศาสตร์ หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ มาสัมพันธ์โดยใช้ตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เป็นตัวเชื่อม ผลลัพธ์ที่ได้ จะเป็นตัวเลข นิพจน์คณิตศาสตร์ นิพจน์ภาษาซี 5z 5*z 3x + 5y 3*x + 5*y x 2 - y 2 x*x - y*y (a + b) c (a + b) / c 3x - 8xy + 15y 2 3*x - 8*x*y + 15*y*y 2. นิพจน์ทางตรรกะ (Logical Expression) นิพจน์ทางตรรกะ หมายถึง การนำตัวแปร ค่าคงที่ หรือนิพจน์ มาสัมพันธ์กัน โดยใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบและตัวดำเนินการตรรก เป็นตัวเชื่อม ผลที่ได้จะเป็น จริง หรือ เท็จ คือ จะให้ค่าเป็น 1 หรือ 0 ออกมาเป็นผลลัพธ์ สามารถนำผลไปคำนวณต่อได้ ถ้า x มีค่าเป็น 4, y มีค่าเป็น 7, z มีค่าเป็น 4 หากนำมาเขียนเป็นนิพจน์จะได้ผลดังตาราง 3. 2 กฏเกณฑ์ในการเขียนนิพจน์ 1. ห้ามเขียนตัวแปรติดกัน โดยไม่มีตัวดำเนินการเชื่อม เช่น ab ในภาษาซี ต้องเขียน a*b จะเขียนเป็น ab ไม่ได้ เพราะโปรแกรมจะถือว่าเป็นชื่อตัวแปรเดียว (ชื่อ ab ไม่ใช่ a คูณ b) 2.
C++ int int ใช้เพื่อเก็บตัวเลขจำนวนเต็ม ขนาดปกติคือ 4 ไบต์ สามารถเก็บค่าจาก -2147483648 ถีง 2147483647 ตัวอย่างเช่น, int salary = 85000; 2. C ++ float และ double float และ double ใช้เพื่อเก็บตัวเลขทศนิยม (ทศนิยมและเลขยกกำลัง) ขนาด float คือ 4 ไบต์ และ ขนาด double คือ 8 ไบต์ ตัวอย่างเช่น, float area = 64. 74; double volume = 134. 64534; ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ข้อมูลทั้งสองประเภทนี้ยังใช้สำหรับเลขยกกำลัง ตัวอย่างเช่น, double distance = 45E12 // 45E12 is equal to 45*10^12 3. อักขระ C++ char ใช้สำหรับอักขระ ขนาดของมันคือ 1 ไบต์ ตัวอักขระใน C ++ จะอยู่ในเครื่องหมายอัญประกาศเดี่ยว ' ' ตัวอย่างเช่น, char test = 'h'; หมายเหตุ: ใน C ++ ค่าเลขจำนวนเต็มจะถูกเก็บไว้ในตัวแปร char แทนที่จะเป็นตัวอักขระ 4. C++ wchar_t อักขระแบบกว้าง wchar_t คล้ายกับชนิดข้อมูล char ยกเว้นขนาดเป็น 2 ไบต์แทนที่จะเป็น 1 ไบต์ It is used to represent characters that require more memory to represent them than a single char. ตัวอย่างเช่น, wchar_t test = L'ם' // storing Hebrew character; สังเกตตัวอักษร L ก่อนเครื่องหมายคำพูด หมายเหตุ: นอกจากนี้ยังมีอักขระขนาดคงที่อีกสองประเภทคือ char16_t และ char32_t ใช้ใน C++11 5.
h> int main() { typedef int boolean; typedef char* string; string name = "Mateo"; string site_name = ""; boolean is_love = 1; printf("%s is reading C tutorial on%s. \n", name, site_name); if (is_love) printf("He loves to learn C language. \n");} return 0;} ในตัวอย่าง เราใช้คำสั่ง typedef ในการสร้าง type alias ของ int เป็น boolean ซึ่งคือค่าที่เก็บได้เพียงสองค่าคือ 1 และ 0 และอีกคำสั่งหนึ่งเป็นการสร้างอาเรย์ของ char โดยกำหนดเป็น string ซึ่งเมื่อเราใช้ประเภทข้อมูลนี้ เราจะสามารถเก็บข้อมูลได้หลายตัวอักษร ซึ่งข้อมูลสองประเภทนี้ไม่มีในภาษา C แต่จะมีในภาษาระดับสูงขึ้นไปเช่น C++ และ Java ดังนั้นในการที่เราสร้าง type alias จะช่วยอำนวยความสะดวกให้โค้ดของเราเข้าใจได้ง่ายกว่า Mateo is reading C tutorial on He loves to learn C language.
h เช่น เราต้องการแสดงข้อมูลบนหน้าจอ ก็ต้องอันเชิญ stdio. h (Standard Input/Ouput) เข้ามาในโปรแกรมก่อน โดยจะเขียนไว้ด้านบนสุดของไฟล์
#include ในการเขียนโปรแกรมภาษาซีนั้น จำเป็นต้องระบุชนิดข้อมูบให้กับตัวแปรที่สร้างขึ้นสำหรับเก็บค่าชนิดข้อมูลใบภาซี ซึ่งชนิดข้อมูล (data type) ในภาษาซีประกอบด้วยข้อมูล ดังนี้ ชนิดข้อมูล การประกาศตัวแปร รหัสรูปแบบ ขนาด (Byte) ช่วงของข้อมูล ตัวอักขระ char%c 1 -128 ถึง 127 เลขจำนวนเต็ม int%d 2 -32, 768 ถึง 32, 767 long integer long%่lf 4 สองพันล้าน เลขทศนิยม float%f 4 1. 2 x 10-38 -3. 4×1038 ตัวอย่าง เรื่อง ชนิดข้อมูล ชนิดข้อมูล การประกาศตัวแปร ตัวอย่างข้อมูล ตัวอักขระ char เกรด A, B, C, D, E, F ข้อมูลตัวอักษรตัวเดียว, อักขระต่างๆ, รหัส ASCII เลขจำนวนเต็ม int เงินจำนวนเต็ม เหรียญ 1, 5, 10 บาท, ตัวเลขที่ไม่มีทศนิยม long integer long ตัวเลขจำนวนๆ มากระดับพันล้าน เลขทศนิยม float ตัวเลขที่เป็นทศนิยม เช่น เกรดเฉลี่ย, คะแนนสอบ, น้ำหนัก, ส่วนสูงชนิดข้อมูลและขนาด (Data Type and Sizes) – INFORMATION TECHNOLOGY @ KU SRC