2, "Mountain", "Python"] # Display lists print(numbers) print(names) print(mixed) # Display lists using the for loops for n in numbers: print(n, end=" ") print() for n in names: for n in mixed: ในตัวอย่าง เราได้ทำการประกาศ 3 Lists โดยตัวแปรแรกนั้นเป็น List ของตัวเลข และตัวแปรที่สองเป็น List ของ String และตัวแปรสุดท้ายเป็น List แบบรวมกันของประเภทข้อมูล เราใช้ฟังก์ชัน print() ในการแสดงผลข้อมูลใน List และใช้คำสั่ง For loop ในการอ่านค่าในลิสต์และนำมาแสดงผลเช่นกัน [1, 2, 4, 6, 8, 19] ['Mateo', 'Danny', 'James', 'Thomas', 'Luke'] [-2, 5, 84. 2, 'Mountain', 'Python'] 1 2 4 6 8 19 Mateo Danny James Thomas Luke -2 5 84.
3333333333333335 # Floating point number speed = 34. 12 pi = 22 / 7 height = 2. 31E5 length = 1. 3E-3 print ('speed =%f'% speed) print ('pi =%f'% pi) print ('height =%f'% height) print ('length =%f'% length) print (pi) ต่อไปเป็นการประกาศและใช้งานตัวแปรประเภท Float หรือตัวเลขที่มีจุดทศนิยม ในการกำหนดค่าให้กับตัวแปรนั้น เมื่อคุณกำหนดตัวเลขมีจุดมันจะเป็นประเภท Float อัตโนมัติ เราสามารถกำหนดค่าโดยตรงหรือในรูปแบบของ Expression ได้ และนอกจากนี้ ในภาษา Python ยังสามารถกำหนดในรูปแบบสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ได้เหมือนในตัวแปร height ซึ่งหมายถึง 2. 31 x 10 ^ 5 และในตัวแปร length ซึ่งหมายถึง 1. 3 x 10 ^ -3 speed = 34. 120000 pi = 3. 142857 height = 231000. 000000 length = 0. 001300 3.
สตริงเป็นหนึ่งในประเภทที่นิยมมากที่สุดใน Python เราสามารถสร้างได้ง่ายๆโดยใส่เครื่องหมายอัญประกาศ Python ถือว่าอัญประกาศเดี่ยวเหมือนกับเครื่องหมายคำพูดคู่ การสร้างสตริงทำได้ง่ายเพียงแค่กำหนดค่าให้กับตัวแปร ตัวอย่างเช่น - var1 = 'Hello World! ' var2 = "Python Programming" การเข้าถึงค่าในสตริง Python ไม่รองรับประเภทอักขระ สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นสตริงที่มีความยาวหนึ่งดังนั้นจึงถือว่าเป็นสตริงย่อยด้วย ในการเข้าถึงสตริงย่อยให้ใช้วงเล็บเหลี่ยมสำหรับการแบ่งส่วนพร้อมกับดัชนีหรือดัชนีเพื่อรับสตริงย่อยของคุณ ตัวอย่างเช่น - #!
startswith()" และ ". endswith()" แทนการสไลด์ string เพื่อตรวจสอบข้อความขึ้นต้นหรือลงท้าย Yes: if artswith('bar'): No: if foo[:3] == 'bar': 7. ใช้ is แทน == อย่าตรวจสอบค่าความจริง (True / False) ของตัวแปรประเภท boolean ด้วยการใช้เครื่องหมาย == Yes: if greeting: No: if greeting == True: Worse: if greeting is True: 8. การตั้งชื่อ constant ตั้งชื่อ constant ด้วยการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด เช่น PI = 3. 14 TOTAL_DOGS = 10 เนื่องจากในภาษา python นั้นไม่สามารถประกาศตัวแปรหรือค่าใดๆให้เป็น constant ได้ ดังนั้นการตั้งชื่อตัวแปรให้ดีและถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญมากๆ 9.